บทที่4 การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูด้านงานเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word

1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Word
1.1 ความหมายของโปรแกรม microsoft word 2013
  โปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด เป็นโปรแกรมประมวลผลคํา ที่ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์ จึงนิยมเรียกว่าไมโครซอฟท์เวิร์ด ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาถึงรุ่นหรือเวอร์ชั่น (Version) 2013 ตามปีค.ศ. ที่ผลิตออกมาจําหน่าย เป็นโปรแกรมที่นิยมใช้สําหรับการพิมพ์งานเอกสารต่าง ๆ เช่น จดหมาย รายงาน หนังสือ หนังสือราชการ วิทยานิพนธ์เป็นต้น และสามารถจัดรูปแบบของเอกสารให้ดู สวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างงานพิมพ์แบบคอลัมน์ (Column) ได้และในเวอร์ชั่นปัจจุบันได้มี การปรับความสามารถของโปรแกรมให้น่าใช้และทันสมัยมากขึ้น

1.2 ส่วนประกอบของโปรแกรม microsoft word 2013


  1. หมายเลข 1 แถบชื่อเรื่อง (Title Bar) แถบชื่อเรื่อง เป็นส่วนที่ใช้ในการแสดงชื่อของไฟล์เอกสารที่กําลังใช้งานและแสดงชื่อของ โปรแกรมจากภาพงานเอกสารที่กําลังใช้งานมีชื่อว่า “Document1” และชื่อโปรแกรมที่กําลังใช้งาน คือ “Microsoft Word”
  2. หมายเลข 2 แถบเครื่องมือด่วน (Quick Access Tool Bar) แถบเครื่องมือด่วน เป็นส่วนที่แสดงคําสั่งที่ต้องการใช้งานบ่อยๆ ปรากฏอยู่ด้านบนซ้าย ของหน้าต่างหรือเราสามารถสั่งให้แสดงอยู่ใต้ริบบอนก็ได้ที่แสดงในรูปของปุ่มรูปภาพ หรือไอคอนเราสามารถเพิ่มหรือลดจํานวนของเครื่องมือบนแถบเครื่องมือด่วนได้โดยการคลิกที่ ที่อยู่ด้าน ท้ายสุดของแถบเครื่องมือด่วน แล้วเลื่อนเมาส์คลิกในบริเวณคําสั่งที่ต้องการให้ปรากฏเครื่องมือบน แถบเครื่องมือด่วน โดยเครื่องมือที่จะปรากฏบนแถบเครื่องมือด่วนจะปรากฏเครื่องหมาย üหน้า เครื่องมือเหล่านั้น ในทํานองเดียวกันหากต้องการยกเลิกเครื่องมือบนแถบเครื่องมือด่วนก็กระทํา เช่นเดียวกัน แต่เครื่องหมาย üจะหายไป
  3. หมายเลข 3 แท็บคําสั่ง “ไฟล์” (File Tab) แท็บคําสั่ง “ไฟล์” เป็นปุ่มรายการที่รวบรวมคําสั่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแฟ้มหรือ งานนําเสนอ ซึ่งประกอบด้วยคําสั่ง “ข้อมูล” “ใหม่” “เปิด” “บันทึก” “บันทึกเป็น” “พิมพ์” “แชร์” “ส่งออก” และ “ปิด”
  4. หมายเลข 4 แท็บเครื่องมือหรือริบบอน (Ribbon) ริบบอน เป็นแท็บที่รวบรวมเครื่องมือคําสั่งต่างๆของโปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด ซึ่งจะถูก แบ่งออกเป็นแท็บ (Tab) ตามหมวดหมู่ของการใช้คําสั่ง ได้แก่แท็บ “หน้าแรก” “แทรก” “ออกแบบ” “เค้าโครงหน้ากระดาษ” “การอ้างอิง” “การส่งจดหมาย” “รีวิว” และ “มุมมอง”
  5. หมายเลข 5 ไม้บรรทัด (Ruler) ไม้บรรทัด เป็นส่วนที่แสดงมาตราส่วนเช่นเดียวกับไม้บรรทัดทั่วไป เพื่อบอกระยะของ ข้อความในเอกสาร มีทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ใช้ได้ทั้งเป็นนิ้วและเซนติเมตร
  6. หมายเลข 6 ตําแหน่งพิมพ์ (Cursor) ตําแหน่งพิมพ์หรือเคอร์เซอร์เป็นเครื่องหมายที่บอกตําแหน่งการพิมพ์งานในปัจจุบัน
  7. หมายเลข 7 แถบสถานะ (Status Bar) แถบสถานะ เป็นส่วนที่แสดงสถานะของการใช้งานเอกสารในขณะนั้น บางสถานะของ การทํางานส่วนนี้จะแสดงคําอธิบายการทํางานให้ทราบด้วย
  8. หมายเลข 8 มุมมอง (View) เราสามารถใช้มุมมองของเอกสารในแบบต่าง ๆ จากริบบอน “มุมมอง” หรือใช้จากแถบ สถานะด้านมุมล่างขวามือตามหมายเลข 8 ก็ได้ซึ่งได้แก่มุมมอง “โหมดการอ่าน” “เค้าโครงเหมือนพิมพ์” และ “เค้าโครงเว็บ”
   9. หมายเลข 9 มุมมองย่อ/ขยาย มุมมองย่อ/ขยาย ใช้สําหรับปรับมุมมองของเอกสาร ซึ่งสามารถปรับได้ทั้งแบบย่อและ แบบขยาย โดยเปรียบเทียบได้จากตัวเลขแสดงเปอร์เซ็นต์ (Percent) ของการย่อ/ขยาย
   10. หมายเลข 10 แถบเลื่อน (Scroll Bar) แถบเลื่อน โดยปกติมีทั้งแนวตั้งและแนวนอน ใช้สําหรับการเลื่อนดูเอกสารทั้งในแนว บน-ล่าง และแนวซ้าย-ขวา

2 ความหมายและการใช้คำสั่งแถบเครื่องมือ

  แถบเครื่องมือ คือกลุ่มของคำสั่งที่ใช้บ่อย จัดไว้เป็นชุดๆ ปกติเมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word ขึ้นมา โปรแกรมจะแสดงแถบเครื่องแถบเครื่องมือย่อยให้ผู้ใช้เลือกเครื่องมือต่างๆ ตามความเหมาะสมกับรูปแบบงานที่หำลังใช้งาน เมื่อนำตัวชี้เมาส์ไปวางบนปุ่มสักครู่ จะปรากฏชื่อนั้นขึ้นมา ถ้าต้องการใช้ปุ่มใดให้คลิกปุ่มนั้น1 ครั้ง แต่ละปุ่มมีหน้าที่แตกต่าง


3 ขั้นตอนการเปิด-ปิด ละบันทึกข้อมูลบนโปรแกรม Microsoft Word
3.1 ขั้นตอนการเปิดโปรแกรม microsoft word 
  1.เลือกปุ่ม start 
  2.เลือกProgram
  3. เลือก microsoft office
  4.เลือก microsoft word 2013 

3.2 ขั้นตอนการบันทึกข้อมูลบนโปรแกรม microsoft word 
  1. เลือกเมนู file 
  2. เลือก save as เพื่อระบุไดร์ฟที่ต้องการบันทึก 
  3. ในส่วนของ file name ป้อนชื่อบันทึกข้อมูล 
  4. เลือก save 

3.3 ขั้นตอนการปิดโปรแกรม microsoft word 
  1. เลือกเมนู file
  2. เลือกCloseปิดแฟ้มงาน 
  3 .เลือกเมนู file 
  4. เลือก Exit ปิดโปรแกรมการใช้งาน 

4 การพิมพ์เอกสาร การเลือกข้อมูล คัดลอก และเคลื่อนย้ายข้อมูล
4.1 ขั้นตอนการพิมพ์เอกสาร 
  1. เลือกแถบเครื่องมือ 
  2. เลือกข้อความเพื่อจัดการข้อความ เช่น เลือกขนาดตัวอักษรเลือกรูปตัวอักษรโดยเลือกที่แถบเครื่องมือ 
  3. วางเคอร์เซอร์ ณ ตำแหน่งที่ต้องการพิมพ์ข้อความ 
  4. พิมพ์ข้อความที่ต้องการ 
  5. เมื่อต้องการพิมพ์บรรทัดถัดไปกดปุ่ม enter 

4.2 ขั้นตอนการเลือกข้อความ (แรงเงา)
  1.วางเคอร์เซอร์หน้าข้อความ
  2. กดปุ่มเมาส์ซ้ายค้างล่างจากข้อความแรกไปจนถึงข้อความสุดท้ายที่ต้องการปรากฏสีดำบนข้อความ

4.3ขั้นตอนการคัดลอกข้อความ Copy 
  1. เลือกข้อความที่ต้องการแรงเงา 
  2.วางเมาส์บนพื้นที่ที่เลือกข้อความ
  3. คลิกเมาส์ปุ่มขวาเลือก copy
  4. วางเคอร์เซอร์ณตำแหน่งที่ต้องการวางข้อความ
  5. คลิกเมาส์ปุ่มขวาเลือก paste options 

4.4 ขั้นตอนการตัดข้อความ 
  1.เลือกข้อความที่ไม่ต้องการ
  2. กดปุ่ม delete หรือเลือก cut บนแถบเครื่องมือถือกด enter

 4.5 ขั้นตอนการเรียกข้อความกลับคืน
  1.เลือก Undo
 
4.6 ขั้นตอนการเคลื่อนไหวข้อความ
   1. เรื่องข้อความที่ต้องการย้าย
   2. วางเมาส์บนพื้นที่ที่เลือกข้อความ
   3.เลือกเมาส์เพื่อนำ เคอร์เซอร์r แปลว่าเอาข้อความห ณ ตำแหน่งที่ต้องการ 
   4. การเลือกข้อความไปยังบรรทัดถัดไป
           1 การวางเคอร์เซอร์หน้าข้อความหรือหน้าบรรทัดที่ต้องการ
           2 กดปุ่ม enter
   5. การเลื่อนไปยังหน้าถัดไป
           1 วางเคอร์เซอร์หลังข้อความสุดท้ายของบรรทัดในหน้าเอกสาร
           2 กดปุ่ม ctrl enter พร้อมกัน
 
4.7 การแก้ไขข้อความ
  1 การลบข้อความ
          1 วางเคอร์เซอร์หน้าข้อความที่ต้องการลบแล้วกดปุ่ม delete หรือ
          2  วางเคอร์เซอร์หลังข้อความที่ต้องการลบแล้วกดปุ่ม blackspace

5 การจัดรูปแบบตัวอักษร
     การกำหนดตำแหน่งข้อความสามารถจัดวางข้อความในเอกสารว่าจะให้ชิดด้านใดในเอกสารก็ได้ ซึ่งการจัดข้อความจะมีผล ต่อข้อความในย่อหน้านั้น
    วิธีกำหนดการจัดวางตำแหน่งข้อความในเอกสารทำได้ดังนี้
  1. คลิกที่ใดๆ ในเอกสารที่ต้องการจัดวางตำแหน่งข้อความ
  2. คลิกปุ่มเครื่องมือ เพื่อเลือกรูปแบบการจัดวางข้อความ

6 การจัดเอกสารเป็นคอลัมน์
 การแบ่งเอกสารเป็นหลายสดมภ์วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ควรกำหนดคอลัมน์เสียก่อนที่เราจะพิมพ์ข้อมูลลงไป มีวิธีการดังนี้ หรือทำตามขั้นตอนดังนี้
  1. คลิกเมาส์ เลือกคำสั่ง รูปแบบ
  2. คลิกเมาส์ เลือกคำสั่ง สดมภ์ จะปรากฎเครื่องมือแสดงการแบ่งจำนวน สดมภ์
  3. คลิกเมาส์ เลือกจำนวน สดมภ์ ที่ต้องการ
  4. เอกสารจะถูกแบ่งเป็นหลาย สดมภ์ ตามที่ได้เลือกไว้
  การแบ่งเอกสารเป็นหลาย สดมภ์ นั้นจะมีผลทั้งเอกสาร แต่ถ้าต้องการแบ่งให้เป็นหลาย สดมภ์ในเอกสารบางส่วนก็ สามารถทำได้โดยการกำหนด การนำไปใช้ ทำให้เอกสารถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ ซึ่งการแบ่งเอกสารเป็นหลาย สดมภ์นั้นจะมี ผลเฉพาะพื้นที่ ที่เลือกไว้เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทที่12 การแก้ไข ตกแต่ง และการฉายสไลด์จากโปรแกรมการนำเสนอผลงาน

1 การแก้ไขและลบรูปแบบสไลด์ เพิ่มสไลด์ใหม่   1.บนแท็บ มุมมอง ให้คลิก ปกติ   2.ในบานหน้าต่างรูปขนาดย่อของสไลด์ทางด้านซ้าย ให้คลิกสไลด...